ทดสอบนาน 6 ปี “รถขับเคลื่อนตัวเอง” ของกูเกิลถูกคันอื่นชน 11 ครั้ง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
12 พฤษภาคม 2558 06:12 น. (แก้ไขล่าสุด 12 พฤษภาคม 2558 11:15 น.)

  http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000053885
ทดสอบนาน 6 ปี “รถขับเคลื่อนตัวเอง” ของกูเกิลถูกคันอื่นชน 11 ครั้ง
        เจ้าพ่อเสิร์ชเอนจินผู้พัฒนารถขับเคลื่อนตัวเองอย่างกูเกิล (Google) เปิดเผยผลสรุปการทดสอบตลอด 6 ปีที่ผ่านมา ระบุรถไร้คนขับไม่เคยเคลื่อนไปชนใคร มีเพียงอุบัติเหตุเล็กน้อยจากการจราจรที่ทำให้รถคันอื่นพุ่ง “ชนท้าย” และข้างรถ จำนวน 11 ครั้งเท่านั้น 
 
       กลายเป็นผลสรุปว่า อุบัติเหตุบนท้องถนนไม่ได้เกิดเพราะความผิดพลาดของรถ แต่เป็นเพราะคนล้วนๆ เมื่อผู้บริหารกูเกิลเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ของบริษัทว่า จากการทดสอบรถขับเคลื่อนตัวเองหรือ self-driving car ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา พบอุบัติเหตุบนท้องถนนทั้งหมด 11 ครั้ง โดยทุกครั้งเป็นอุบัติเหตุเล็กน้อยที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
 
       ตลอด 6 ปี กูเกิลทดสอบรถขับเคลื่อนตัวเองมากกว่า 20 คัน เป็นระยะทางรวม 1.7 ล้านไมล์ คิดเป็นระยะทางเฉลี่ย 10,000 ไมล์ต่อสัปดาห์ โดย 1 ล้านไมล์เป็นระยะทางที่รถถูกขับเคลื่อนในโหมดไร้คนขับ ระยะทางนี้รวมการทดสอบรถ จำนวน 3 คัน บนถนนในรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งผ่านกฎหมายเพื่อรองรับกรณีการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนโดยรถไร้คนขับโดยเฉพาะตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา
 
       คริส อาร์มสัน (Chris Urmson) ผู้บริหารกูเกิลระบุว่า ไม่มีครั้งใดเลยที่รถ self-driving car เป็นสาเหตุของอุบัติเหตุ จุดนี้เป็นผลจากซอฟต์แวร์ และเซ็นเซอร์จำนวนมากที่ช่วยให้รถสามารถขับเคลื่อนตามสถานการณ์ได้รวดเร็วกว่ามนุษย์ ทำให้รถไร้คนขับสามารถป้องกันการชนรถคันอื่นได้แบบ 360 องศา 
ทดสอบนาน 6 ปี “รถขับเคลื่อนตัวเอง” ของกูเกิลถูกคันอื่นชน 11 ครั้ง
        ผู้บริหารกูเกิลระบุว่า เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะหลายครั้งที่มนุษย์ไม่สามารถประเมินความสัมพันธ์ระหว่างความเร็ว และระยะทางได้แม่นยำพอ โดยขณะนี้กูเกิลกำลังเร่งพัฒนาความสามารถใหม่ให้รถไร้คนขับสามารถรับมือกับภาวะเสี่ยงจากการเปลี่ยนเลนส์ และการฝ่าไฟแดงของคนคันอื่นให้ดีขึ้น
 
       อย่างไรก็ตาม ผลสรุปของกูเกิลยังมีข้อกังขา เนื่องจากไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทั้ง 11 ครั้งอย่างชัดเจน มีเพียงการยืนยันว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดพลาดของรถไร้คนขับ แต่เป็นความผิดพลาดของรถคันอื่น หรือ “second vehicle” เท่านั้น
 
       กรณีของกูเกิล สัดส่วนการเกิดอุบัติเหตุ 11 ครั้งต่อระยะทาง 1.7 ล้านไมล์นี้คิดเป็นอัตราการเกิดเหตุ 0.6 ต่อ 100,000 ไมล์ ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับสถิติการเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยมากกว่า 5 ล้านครั้งต่อปีที่ไม่ได้ถูกแจ้งต่อเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ขณะที่การทางหลวงของสหรัฐฯ หรือ National Highway Traffic Safety Administration มีการบันทึกว่าสัดส่วนการเกิดอุบัติเหตุรถชนอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ นั้นเฉลี่ยอยู่ที่ราว 0.3 ต่อ 100,000 ไมล์ 

All New Triton - มิตซูบิชิ ประเทศไทย เปิดตัว All-new Mitsubishi Triton


  • fdสนับสนุนเนื้อหา 
โดย Sanook !
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดตัว All-new  Triton พร้อมนวัตกรรมดีเซล “ไมเวค วีจี เทอร์โบ อลูมินัม อัลลอย บล็อก” ขนาด 2.4 ลิตร ใหม่ล่าสุด มีให้เลือกทั้งรุ่น ดับเบิ้ล แค็บ พลัส และ ดับเบิ้ล แค็บขับเคลื่อน 4 ล้อ 

     มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่  เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 5 ของรถกระบะมิตซูบิชิที่ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์การเป็นที่สุดของรถกระบะอเนกประสงค์แบบสปอร์ต “Ultimate Sport Utility Truck” ที่ไม่ได้จำกัดแค่เพียงการบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ แต่ยังรวมไปถึงความสะดวกสบายอย่างรถยนต์นั่งสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันด้วยแนวคิด “เปลี่ยน ...ทุกความเชื่อ”

     ดีไซน์ของ Mitsubishi Triton ใหม่ มาพร้อมการออกแบบใหม่แบบ 3 มิติ ให้ความรู้สึกแตกต่างกันเมื่อมองจากด้านหน้า ด้านบน และด้านข้าง มุมมองด้านข้างเน้นความเป็นหนึ่งเดียวของห้องโดยสารกับกระบะบรรทุกให้ความรู้สึกถึงการขับเคลื่อนไปข้างหน้า รวมถึงติดตั้งล้ออัลลอยดีไซน์สไตล์สปอร์ต ขนาด 17 นิ้ว 
     การออกแบบด้านหลังมีความโค้งมนทันสมัย ชุดไฟท้ายมาพร้อมการออกแบบสไตล์รถเก๋งให้ทอดยาวไปจนถึงด้านข้างของกระบะ

     อุปกรณ์ภายนอกของ Mitsubishi Triton ใหม่ ติดตั้งไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ HID เน้นดีไซน์หรูหรา พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED รับกับกระจังหน้าโครเมี่ยมขนาดใหญ่ โดยในรุ่นเมกะแค็บมาพร้อมความสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยประตูแค็บเปิดได้ สำหรับกระบะท้ายได้รับการออกแบบใหม่สไตล์สปอร์ตพร้อมการเพิ่มพื้นที่การบรรทุกเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการด้านการบรรทุกที่หลากหลาย

     ห้องโดยสารภายในยังติดตั้ง ระบบแอร์อัตโนมัติแยกปรับซ้าย-ขวา (ในรุ่น GLS NAVI) กุญแจอัจฉริยะ KOS (Keyless Operation System)  พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ระบบ Cruise Control เครื่องเสียงพร้อมจอภาพแบบระบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) ระบบนำทางในรถ (Navigator System) ที่ล้ำสมัย และช่อง USB  สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง
     ทั้งยังติดตั้งกล้องมองหลัง มาตรวัดแบบ Combination meter พร้อมจอแสดงผลข้อมูลเอนกประสงค์ (Multi-information display)  เช่น ความเร็วเฉลี่ยในการขับขี่  อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย ระยะทางขับขี่ที่เหลือจากปริมาณน้ำมันที่มีอยู่ในถัง เป็นต้น

     Mitsubishi Triton 2015 ใหม่ มีเครื่องยนต์ให้เลือกด้วยกัน 4 รุ่น เริ่มจากเครื่องยนต์ใหม่ รหัส4N15 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว  MIVEC วีจีเทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 2,442 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตรที่  2,500 รอบต่อนาทีประหยัดน้ำมันมากขึ้นถึง 20% โดยใช้วัสดุ อลูมินัม อัลลอย บล็อก (Aluminum Alloy Block) ที่น้ำหนักเบาช่วยให้สามารถลดน้ำหนักของเครื่องยนต์โดยรวมได้ถึง 35 กิโลกรัม

     นอกจากนั้นยังมี เครื่องยนต์ดีเซลรหัส 4D56 ขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ คูลเลอร์ ให้สมรรถนะสูงสุด 128 แรงม้า  ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-3,500 รอบ/นาที ในขณะที่รุ่นซิงเกิ้ลแค็บขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.5  วีจีเทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ให้สมรรถนะสูงสุดที่ 178 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400  นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที
     สุดท้ายเป็นเครื่องยนต์เบนซินรหัส 4G64  ขนาด 2.4 ลิตร  ให้แรงม้าสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 5,250  รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 194 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที

     Mitsubishi Triton ใหม่ ติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยมากมาย อาทิเช่น ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ASTC (Active Stability & Traction Control) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist) และระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake-Assist)  เป็นต้น