รวมข้อมูล ราคา iPhone 6 ข่าวลือ สเปคและวันเปิดตัว อัพเดตล่าสุด
ในที่สุดก็เปิดตัวซักทีนะครับสำหรับ iPhone 6 หน้าจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 6 Plus ที่มีหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว เรียกได้ว่าไม่มีอะไรที่พลิกโผไปจากที่คาดๆ กันมากเท่าไหร่นัก ว่าแต่ในงานเราได้ทราบอะไรเกี่ยวกับ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus บ้าง มาดูกันเลย
>>สเปค iPhone 6 แบบเต็มๆ<<
>>สเปค iPhone 6 Plus แบบเต็มๆ<<
ราคา iPhone 6 และราคา iPhone 6 Plus
ราคาของ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มีการปรับเปลี่ยนจากใน iPhone 5s พอสมควรครับ และตอนนี้ทุกเจ้าทั้ง AIS, Dtac และ Truemove-H ก็เปิดราคา iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย ว่าแต่จะมีราคาเท่าไหร่กันบ้าง มาดูเลยครับ
ราคา iPhone 6 by Truemove-H
ราคา iPhone 6 เครื่องศูนย์ Truemove-H (ปรับราคาแล้ว)
- iPhone 6 ความจุ 16 GB ราคา 25,500/ 24,600 บาท
- iPhone 6 ความจุ 64 GB ราคา 29,450/ 28,550 บาท
- iPhone 6 ความจุ 128 GB ราคา 33,400/ 32,400 บาท
ราคา iPhone 6 Plus เครื่องศูนย์ Truemove-H (ปรับราคาแล้ว)
- iPhone 6 Plus ความจุ 16 GB ราคา 29,450/ 28,550 บาท
- iPhone 6 Plus ความจุ 64 GB ราคา 33,400/ 32,400 บาท
- iPhone 6 Plusความจุ 128 GB ราคา 37,300/ 36,300 บาท
ราคา iPhone 6 by Dtac
ราคา iPhone 6 หน้าจอ 4.7 นิ้ว Dtac (เครื่องเปล่า/ติดสัญญา)
- iPhone 6 ความจุ 16 GB ราคา 25,500/ 24,600 บาท
- iPhone 6 ความจุ 64 GB ราคา 29,450/ 28,550 บาท
- iPhone 6 ความจุ 128 GB ราคา 33,400/ 32,400 บาท
ราคา iPhone 6 Plus หน้าจอ 5.5 นิ้ว Dtac (เครื่องเปล่า/ติดสัญญา)
- iPhone 6 Plus ความจุ 16 GB ราคา 29,450/ 28,550 บาท
- iPhone 6 Plus ความจุ 64 GB ราคา 33,400/ 32,400 บาท
- iPhone 6 Plusความจุ 128 GB ราคา 37,300/ 36,300 บาท
ราคา iPhone 6 by AIS
ราคา iPhone 6 หน้าจอ 4.7 นิ้ว AIS (เครื่องเปล่า/ติดสัญญา)
- iPhone 6 ความจุ 16 GB ราคา 25,500/ 24,800 บาท
- iPhone 6 ความจุ 64 GB ราคา 29,400/ 28,650 บาท
- iPhone 6 ความจุ 128 GB ราคา 33,400/ 32,350 บาท
ราคา iPhone 6 Plus หน้าจอ 5.5 นิ้ว AIS (เครื่องเปล่า/ติดสัญญา)
- iPhone 6 Plus ความจุ 16 GB ราคา 29,400/ 28,650 บาท
- iPhone 6 Plus ความจุ 64 GB ราคา 33,400/ 32,350 บาท
- iPhone 6 Plusความจุ 128 GB ราคา 37,300/ 35,950 บาท
ราคา iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ในไทย เครื่องเปล่า จาก Apple Store
ราคาตรงนี้เป็นราคา iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ที่ทาง Apple วางขายเองครับ (ซื้อกับ Apple โดยตรง) เพราะฉะนั้นจะมีราคาถูกกว่า iPhone 6 และ iPhone 6 Plus Dtac, AIS, Truemove-H นิดหน่อยครับ แต่จะต้องสั่งซื้อแบบ Online เท่านั้น โดยจะมีบริการส่งของจาก DHL ครับ ใช้เวลาไม่นาน (ถ้าตอนนั้นมีของในสต็อก)
ราคา iPhone 6 เครื่องศูนย์ Apple Store (เครื่องเปล่าเท่านั้น)
- iPhone 6 ความจุ 16 GB ราคา 24,900 บาท
- iPhone 6 ความจุ 64 GB ราคา 28,900 บาท**
- iPhone 6 ความจุ 128 GB ราคา 32,900 บาท**
ราคา iPhone 6 Plus เครื่องศูนย์ Apple Store (เครื่องเปล่าเท่านั้น)
- iPhone 6 Plus ความจุ 16 GB ราคา 28,900 บาท
- iPhone 6 Plus ความจุ 64 GB ราคา 32,900 บาท**
- iPhone 6 Plus ความจุ 128 GB ราคา 34,900 บาท**
**หมายเหตุ เป็นราคาที่ทีมงานคำนวณขึ้นมาเอง อ้างอิงจากราคาเริ่มต้นที่หน้าเว็บ Apple Store**
ราคาเครื่องหิ้ว iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ที่ MBK มาบุญครอง
ไม่มีอะไรผลิกโผมากนักสำหรับราคา iPhone 6 และ iPhone 6 Plus เครื่องหิ้วจากมาบุญครอง ซึ่งตอนนี้ก็ได้ทยอยเปิดรับจองกันแล้ว โดยสามารถรับเครื่องได้ประมาณวันที่ 20 – 21 กันยายน 2014 (iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus วางขายครั้งแรกวันศุกร์ที่ 19 กันยายน 2014) ส่วนราคาเครื่องหิ้ว iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus ก็ตามนี้เลยครับ โดยมีเครื่องหิ้วจากหลายที่ให้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็น iPhone 6 เครืองสิงคโปร์, iPhone 6 เครื่องออสเตรเลีย, iPhone 6 เครื่องฮ่องกง ซึ่งล้วนแต่เป็นเครื่อง Official Unlocked คือเครื่องที่สามารถใช้ในประเทศไทยได้ ส่วนพวก iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus เครื่องหิ้ว US (สหรัฐอเมริกา) จะเป็นเครื่องติดล็อกครับ ราคาอาจจะถูกกว่านิดหน่อย แต่ก็ต้องเสียเงินค่าปลดล็อกเพื่อให้สามารถใช้ในประเทศไทยได้อยู่ดี ส่วนมากค่าปลดล็อก iPhone 6 ก็จะอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาทครับ
ราคา iPhone 6 หน้าจอ 4.7 นิ้ว เครื่องหิ้ว MBK (ราคาเฉลี่ย)
- iPhone 6 ความจุ 16 GB ราคาประมาณ 26,500 บาท
- iPhone 6 ความจุ 64 GB ราคาประมาณ 32,500 บาท
- iPhone 6 ความจุ 128 GB ราคาประมาณ 34,000 บาท
ราคา iPhone 6 Plus หน้าจอ 5.5 นิ้ว เครื่องหิ้ว MBK (ราคาเฉลี่ย)
- iPhone 6 Plus ความจุ 16 GB ราคาประมาณ 28,800 บาท
- iPhone 6 Plus ความจุ 64 GB ราคาประมาณ 34,800 บาท
- iPhone 6 Plus ความจุ 128 GB ราคาประมาณ 35,800 บาท
ความจุ iPhone 6 และความจุของ iPhone 6 Plus
สำหรับความจุของ iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus จะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากใน iPhone 5s นิดหน่อย คือจะตัดความจุที่ 32 GB ออกไป และเพิ่มความจุ 128 GB เข้ามาแทน สรุปง่ายๆ คือ iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus จะมีด้วยกัน 3 ความจุ ได้แก่ 16 GB/ 64 GB และ 128 GB
iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus ในประเทศไทย วางขายเมื่อไหร่ ที่ไหนบ้าง
สำหรับ iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus ในประเทศไทยน่าจะวางขายประมาณช่วงปลายเดือนตุลาคม ถึงช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนเช่นเดียวกับ iPhone 5s และแน่นอนว่าจะต้องวางขายผ่านทางโอเปอร์เรเตอร์อย่าง DTAC, Truemove-H และ AIS เช่นเคย และมาพร้อมกับสัญญาเป็นแพคเกจรายเดือนขั้นต่ำ 3 เดือน แต่ถ้าใครไม่อยากซื้อเครื่อง iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus ผ่านทางโอเปอร์เรเตอร์ (เพราะไม่อยากติดสัญญาขั้นต่ำ 3 เดือน) ก็อาจจะต้องรอซักพักจึงจะสั่งซื้อผ่าน Apple Store Thailand ได้ครับ
หน้าตา iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus
รอบนี้ Apple ปิดข่าวได้ไม่มิดเท่าที่ควรครับเพราะ iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus มีหน้าตาเหมือนกับเครื่องที่หลุดมาก่อนหน้านี้เป๊ะเลย ไม่ว่าจะมองมุมไหน มันก็คือเครื่อง Mockup ที่มีการใส่รายละเอียดเข้าไปชัดๆ แต่สิ่งที่จะแตกต่างจาก iPhone 5s ก็คงจะเป็นการย้ายปุ่ม Sleep/Wake จากที่แต่เดิมมันเคยอยู่บริเวณด้านบนของตัวเครื่องมาโดยตลอด แต่ใน iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus ปุ่ม Sleep/Wake ถูกย้ายมาอยู่ทางด้านขวาของตัวเครื่องเป็นที่เรียบร้อย เพื่อให้รองรับกับหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม การกดปุ่ม Sleep/Wake ทางด้านข้างจะสามารถใช้งาน iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ได้สะดวกมากกว่า อีกทั้งตัวเครื่อง iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus จะมนกว่า iPhone 5s พอสมควร
ส่วนเรื่องความบางของ iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่ามันบางกว่า iPhone 5s พอสมควรเลยหล่ะ ต่อให้เป็น iPhone 6 Plus ก็ยังบางกว่า iPhone 5s อยู่ดี
สเปค iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus
iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus จะมาพร้อมกับสเปคที่มีความใกล้เคียงกันมาก โดยความแตกต่างของทั้ง 2 รุ่นที่เห็นได้ชัดก็คงจะเป็นเรื่องของขนาดหน้าจอ, มิติตัวเครื่อง,น้ำหนัก และแบตเตอรี่ สำหรับสเปคของ iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus ก็ตามนี้เลย
สเปค iPhone 6
- iPhone 6 หน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1334×750 พิกเซล 326 ppi
- CPU Apple A8 เทคโนโลยีแบบ 64 Bit
- มาพร้อมชิป M8 สามารถวัดความดัน, ความสูงได้
- Ram 1 GB
- หน่วยความจำภายใน 16/64/128 GB
- มาพร้อมกับ iOS 8.0 ตัวเต็ม
- กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 พร้อมระบบกันภาพสั่นไหว และ True-Tone Flash
- กล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.2
- รองรับการใช้งาน 4G LTE
- รองรับ VoLTE สามารถสนทนาโทรศัพท์ผ่านคลื่น LTE ได้เลย
- iPhone 6 หนา 6.9 มิลลิเมตร
- มีด้วยกัน 3 สี ได้แก่
- iPhone 6 ราคาเริ่มต้น $199 เป็นราคาติดสัญญา 2 ปีที่ต่างประเทศ
- สเปค iPhone 6 แบบเต็มๆ
สเปค iPhone 6 Plus
- iPhone 6 หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920x 1080 พิกเซล 404 ppi
- CPU Apple A8 เทคโนโลยีแบบ 64 Bit
- Ram 1 GB
- หน่วยความจำภายใน 16/64/128 GB
- มาพร้อมกับ iOS 8.0 ตัวเต็ม
- มี UI ใกล้เคียงกับใน iPad สามารถเปิดใช้งานพร้อมกัน 2 แอพได้
- กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล Auto Focus พร้อมระบบกันภาพสั่นไหว OIS และTrue-Tone Flash
- กล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.2
- รองรับการใช้งาน 4G LTE
- รองรับ VoLTE สามารถสนทนาโทรศัพท์ผ่านคลื่น LTE ได้เลย
- iPhone 6 Plus หนา 7.1 มิลลิเมตร
- มีด้วยกัน 3 สี ได้แก่ สีดำ, เงิน และสีทอง
- iPhone 6 Plus ราคาเริ่มต้น $299 เป็นราคาติดสัญญา 2 ปีที่ต่างประเทศ
- สเปค iPhone 6 Plus แบบเต็มๆ
ถึงแม้สเปคของ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus จะไม่ได้มีความแตกต่างไปจาก iPhone 5s มากนัก (โดยเฉพาะในส่วนของ CPU และ GPU) แต่ถ้าเทียบกับประสิทธิภาพก็ต้องบอกว่ามันได้รับการปรับปรุงขึ้นมาจากเดิมมากพอสมควร โดยซีพียู Apple A8 ของ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus เป็นเทคโนโลยีแบบ 20 นาโนเมตร ซึ่งจะแรงกว่าเดิมถึง 20% และประหยัดพลังงานมากกว่าเดิมถึง 50% รวมถึงชิป M8 ที่มาช่วยจัดการในเรื่องของเซนเซอร์ต่างๆ ก็มีการพัฒนาไปจากชิป M7 ก่อนหน้านี้พอสมควร เพราะมันสามารถวัดระดับความชัน, ระดับความสูง และวัดความดันได้ครับ
หน้าจอ iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus
หน้าจอของ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มีการหักปากกาเซียนเล็กน้อย เพราะมันไม่ได้ทำมาจาก Sapphire อย่างที่ได้เข้าใจกัน และคงเป็นหน้าจอ IPS เช่นเดิมครับ สำหรับความละเอียดหน้าจอก็มีความแตกต่างกัน โดย iPhone 6 จะมีหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1334×750 พิกเซล 326 ppi ส่วนหน้าจอของ iPhone 6 Plus จะเป็นหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920x 1080 พิกเซล 404 ppi โดยหน้าจอของ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ก็ยังคงเป็นหน้าจอที่กันรอยขีดข่วนอยู่เหมือนเดิม
แบตเตอรี่ iPhone 6 และแบตเตอรี่ iPhone 6 Plus
เชื่อว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้ iPhone อยากให้มันเพิ่มขึ้น และใช้งานได้นานกว่าเดิม ถึงแม้ว่าเราจะไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับความจุแบตเตอรี่ของทั้ง iPhone 6 และ iPhone 6 Plus แต่ Apple ก็ได้แสดงให้เห็นว่า แบตเตอรี่ของ iPhone 6 Plus ใช้งานได้นานกว่าเดิมพอสมควรเลย (ส่วนหนึ่งมาจากขนาดตัวเครื่องที่ใหญ่ขึ้น ส่งผลให้แบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ขึ้นตาม) จากรูปจะเห็นเลยว่าแบตเตอรี่ iPhone 6 เมื่อเทียบกับ iPhone 5s ไม่ค่อยมีความแตกต่างมากนัก แต่สำหรับแบตเตอรี่ของ iPhone 6 Plus นี่จัดว่าของจริงเลยครับ เพราะแบตเตอรี่ของ iPhone 6 Plus สามารถใช้งานได้นานกว่าเดิมพอสมควรเลย อย่างน้อยมันก็ใช้งาน LTE ได้นานถึง 12 ชั่วโมงเลยนะ
กล้อง iPhone 6 และ กล้อง iPhone 6 Plus
ยังคงใช้กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเท่าเดิม f/2.2 แต่มีการเปลี่ยนเซนเซอร์ใหม่ยกชุด ทำให้การจับโฟกัสทำได้รวดเร็วขึ้นด้วย Focus Pixels (การโฟกัสด้วยพิกเซล) Noise ลดลง รวมถึงใช้ระบบประมวลผลกล้องรุ่นใหม่ และที่สำคัญคือกล้องหลังของ iPhone 6 Plus ยังมาพร้อมกับระบบกันภาพสั่นไหวแบบ OIS ส่วนการถ่ายวีดีโอบน iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus จะสามารถถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p ที่ 30 fps หรือ 60 fps และถ่ายวีดีโอ Slo-Mo ได้ที่ 120 fps หรือ Super Slo-Mo240 fps (สโลวยิ่งกว่าเดิม) ที่ความละเอียด 720p
กล้องหน้า Facetime ของ iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus ก็ได้ทำการยกเครื่องใหม่ f/2.2 ใช้เซนเซอร์ชุดใหม่ รองรับการถ่าย Burst-Shot รวมถึงกล้องหน้าจะถ่ายรูปได้สว่างกว่าเดิมถึง 81% (น่าจะถูกใจขาเซลฟี่มากทีเดียว) บอกเลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆ สำหรับกล้องของ iPhone 6 และกล้อง iPhone 6 Plus
iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus มาพร้อมกับ NFC และระบบ Apple Pay
NFC ใน iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus ออกแบบมารองรับ Apple Pay หรือระบบการจ่ายเงินอัจฉริยะจาก Apple ที่ทำงานร่วมกับแอพพลิเคชัน Passbook สำหรับการสแกนบัตรเครดิตก็ง่ายมากๆ เพียงถ่ายรูปบัตรเครดิตไว้ก็เป็นอันเรียบร้อย และยังสามารถใช้แอพฯ Find my iPhone ระงับการจ่ายเงินผ่าน NFC ได้อีกด้วย โดยทาง Apple การันตีว่าระบบดังกล่าวมีความรวดเร็ว และปลอดภัยสูงกว่าการรูดบัตรเครดิตซะอีก ปัญหาคือมันเริ่มใช้ที่สหรัฐอเมริกาเป็นที่แรกนี่แหละครับ ประเทศไทยก็รอไปก่อนตามระเบียบ แต่ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะทาง Apple บอกว่าจะพยายามผลักดัน Apple Pay ให้ใช้งานได้ทั่วโลกด้วย ต่อไปนี้เวลาที่เราไปซื้อของก็แค่ใช้ iPhone + TouchID แล้วแตะที่เครื่องจ่ายเงินเท่านั้นเอง แหม่…เสียเงินนี่มันง่ายจริงๆ














