iPhone 5


This Change Everything, Again ........




                                                       Credit : http://board.postjung.com/578647.html



iPhone 5
สิ่งที่น่าสนใจและดูเหมือนเป็นไฮไลท์เลยนั่นก็คือการวางจำหน่าย iPad3  ซึ่งคาดว่าจะมีการเริ่มโปรโมทและเปิดตัวในช่วงเดือนมกราคมและเริ่มวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม ในขณะที่ iPhone 5 คาดว่าน่าจะวางจำหน่ายในช่วงเดือนมิถุนายน 2012  และ iPad 4,iPhone 5S และ iTV2 ในปี 2013

โดยข้อมูลดังกล่าวสามารถสรุปออกมาเป็นระยะเวลาได้ดังต่อไปนี้
ปี 2011:
  •     มีนาคม: iPad 2
  •     เมษายน iPhone 4 CDMA
  •     กรกฎาคม: MacBook Air, OS Lion
  •     ตุลาคม: iPhone 4S, iCloud
ปี 2012 (E):
  •     มีนาคม: iPad 3, super-cheap iPad 2 ($299), new Macs
  •     มิถุนายน: iPhone 5, super-cheap iPhone 4S
  •     กันยายน: iTV, new Macs
ปี 2013 (E):
  •     มีนาคม: iPad 4, super-cheap iPad 3 ($199), new Macs
  •     มิถุนายน: iPhone 5S
  •     กันยายน: iTV 2, new Macs

iPhone 5






iOS 6


นอกจากจะเปิดตัว Macbook รุ่นใหม่แล้ว ที่งาน WWDC 2012 แอปเปิลยังได้เปิดตัว iOS 6 ระบบปฏิบัติการสำหรับ iPhone และ iPad เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดอีกด้วย
ตามคำกล่าวอ้างของ Apple นั้นบอกว่า iOS 6 มีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเข้ามาถึง 200 รายการด้วยกัน หลักๆ ก็เป็นไปตามข่าวลือที่ผ่านมา เช่น มีการรวม Facebook เข้ามาในตัว, ปรับปรุง Siri ใหม่, เลิกใช้แผนที่จาก Google Maps, เปิดตัวระบบแผนที่ของแอปเปิลเอง และอัพเดทตัวแอพฯ โทรศัพท์ เป็นต้น สรุปฟีเจอร์หลักๆ ได้ดังนี้ครับ
ปรับปรุง Siri ใหม่
ใน Siri ใหม่นี้ผู้ใช้ สามารถถามผลการแข่งขันกีฬา (Football, Baseball, Basketball) , สั่งให้เปิดแอพพลิเคชั่น และรองรับการทำงานร่วมกับรถยนต์
Siri สำหรับ iPad มาแล้ว !!
รวม Facebook เข้ามาในตัว
เช่น เดียวกับที่เคยรวม Twitter เข้ามาอยู่ใน iOS 5 ครั้งที่แล้ว ซึ่งคราวนี้ตัวระบบปฎิบัติการ iOS จะทำงานร่วมกับ Facebook (แชร์) ได้ดีกว่าเดิม
ปรับปรุงแอพฯ โทรศัพท์ใหม่
คุย FaceTime ได้ผ่าน 3G
แชร์ภาพจาก Photo Streams
เราถ่ายรูปอะไร คนที่แชร์กับเราด้วยรู้หมด
ปรับปรุรงแอพฯ อีเมล์ใหม่
เพิ่มกล่องอีเมล VIP
Passbook
แอพฯ สำหรับเก็บตั๋วหรือบัตรต่างๆ เช่น บัตรชมภาพยนตร์ ตั๋วเครื่องบิน บัตรสมาชิกร้านกาแฟ เป็นต้น
Guided Access
ฟีเจอร์สำหรับควบคุมการใช้หน้าจอเฉพาะบางจุด

เปิดตัวระบบแผนที่ใหม่
ก็เป็นไปตามข่าวลือครับที่ iOS 6 จะทิ้ง Google Maps เพิ่มเปิดตัวระบบแผนที่ของตัวเอง ซึ่งจะมีภาพถ่ายแบบ 3D พร้อมระบบนำทาง อีกด้วย (ยังไม่น่าจะรองรับประเทศไทย)
 
Do Not Disturb
ฟีเจอร์สำหรับปิดการแจ้งเตือนเวลาที่ไม่ต้องการ หรือกำลังนอนหลับอยู่
ณ ตอนนี้ iOS 6 เปิดให้สำหรับนักพัฒนาเท่านั้น ยังไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปได้ดาวน์โหลดมาอัพเดท ซึ่งคาดว่าจะเปิดจริงๆ ช่วงเดือนกันยายนนี้ครับ
โดย iOS 6 สามารถรองรับได้กับ iPhone 3GS, iPhone 4, iPhone 4S, iPad 2, iPad 3 (new iPad) และ iPod Touch Gen 4 ส่วน iPad 1 อดครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.9tana.com 

Facebook App Center


หลังจากที่มีข่าวกันก่อนหน้านี้ว่า Facebook เตรียมจะเปิดตัว App Center หรือร้านขายแอพฯ บนแพลตฟอร์มของตัวเอง (อ่านข่าวเก่า)
ล่าสุดวันนี้ทาง Facebook ก็ได้เปิดตัว App Center อย่างเป็นทางการแล้วครับ โดยมีทั้งในเวอร์ชั่นหน้าเว็บและบนมือถือ ซึ่งมีแอพเริ่มต้นมาให้ที่ 600 แอพ โดยแต่ละแอพที่อยู่ใน App Center จะเป็นแอพคุณภาพที่ทาง Facebook คัดเลือกเข้ามา ให้ผู้ใช้สามารถเข้าใช้งานหรือกดติดตั้งได้ทันที // ใครสนใจลองเข้าไปดูหน้าเว็บของ App Center ได้ครับ (ข้างล่าง)
หน้าเว็บของ App Center (https://www.facebook.com/appcenter)
บนเวอร์ชั่นมือถือ/แท็บเล็ต (Android/iOS)

Samsung Galaxy S III


เปิดตัวกันไปเรียบร้อยสำหรับ Samsung Galaxy S III ที่มาพร้อมกับคอนเซปท์ Designed for Humans,
 Inspired by Nature ถ้าแปลแบบตรงๆตัวก็ "ดีไซน์มาให้มนุษย์ ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ" 
ซึ่งอาจจะฟังดูงงๆว่า ถ้ามันไม่ได้ออกแบบมาให้มนุษย์ใช้ แล้วมันจะออกแบบมาให้สัตว์หรือมนุษย์ต่างดาว
ใช้หรืออย่างไร Tongue แต่ก่อนจะคิดอย่างงั้น เดี๋ยวลองไปดูฟีเจอร์ของมันกันก่อน แล้วจะอ๋อกับความหมายคำเหล่านี้ 
และจะเข้าใจว่าเจ้า Galaxy S3 นี้มันออกแบบมาตอบโจทย์ และเข้าใจพวกเราอย่างไร
เริ่มต้นจากเสปกของ Galaxy S3 กันก่อน เพราะเชื่อว่าหลายๆคนจะรอดูแต่เสปกอย่างเดียว Tongue
  • 3G Quadband (850/900/1900/2100) ความเร็วสูงสุด 21Mbps แต่สุดท้ายน่าจะแยกคลื่นเหมือน S2/Note
  • หน้าจอ 4.8 นิ้ว HD Super AMOLED 1280x720 (Pentile) ~306ppi (retina display)
  • Corning Gorilla Glass 2 - ทนกว่าเดิม บางกว่าเดิม
  • CPU Cortex-A9 Exynos 4412 Quadcore 1.4GHz
  • GPU Mali-400MP
  • Ram 1GB
  • Android 4.0.4
  • กล้องหลัง 8 MP + LED Flash กล้องหน้า 1.9 MP
  • WLAN : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, DLNA, Wi-Fi Direct, Wi-Fi hotspot
  • Bluetooth 4.0 ประหยัดแบตโฮกๆ
  • NFC, Accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer
  • FM radio with RDS
  • GPS with A-GPS and GLONASS
  • เชื่อมต่อ USB 2.0 ต่อภาพออกจอได้ด้วยสาย MHL และเสียบ thumbdrive ได้เช่นเดิม (ผ่านสายต่อ)
  • ขนาดและน้ำหนัก 136.6 x 70.6 x 8.6 mm 133 g
  • ความจุ 16/32/64 GB  รองรับ SD card สูงสุด 64GB (เมืองไทยน่าจะเอาเข้ามาแต่ 16GB เช่นเดิม)
  • แบต Li-ION 2100mAh
  • มีให้เลือก 2 สี ขาวและน้ำเงิน
มาดูจุดเด่นที่น่าสนใจของเจ้า S3 ที่โทรศัพท์ตัวอื่นไม่มีกันดีกว่า
ฟีเจอร์ด้านล่างเหล่านี้เป็นจุดชูของคอนเซปท์ที่พยายามบอกว่า Galaxy S3 เข้าใจคนใช้งาน ซึ่งประกอบด้วย
  • Smart stay - มือถือมันมองเห็นเรา หากตาของเรายังจ้องที่จอ S3 อยู่ มันจะไม่พักหน้าจอ (เออ น่าทำมานานละ)
  • Direct call - เมื่อเราต้องการโทรออก เพียงเข้าไปที่รายชื่อคนๆนั้นแล้วยกโทรศัพท์แนบหน้าเรา เจ้า S3 ก็จะรู้ทันทีและทำการโทรออกอัตโนมัติ ไม่ต้องมากดโทรออกกันให้วุ่น
  • Smart alert - เมื่อเราตั้งโทรศัพท์ทิ้งเอาไว้ และกลับมาหยิบมันจากโต๊ะ หลายๆครั้งมีแจ้งเตือนอะไรมา เราก็อาจจะไม่ทันมอง แต่เจ้า S3 มันจะรู้ว่าเราตั้งทิ้งเอาไว้ และจะงอแง(สั่น)ให้สนใจการแจ้งเตือนที่เราพลาดไปนั้น
  • Social tag - Galaxy S3 มันจะสามารถจดจำใบหน้าของเพื่อนเราได้เมื่อเราบอกมันว่าใครคือใคร และหลังจากนั้นเมื่อเราถ่ายรูปมันจะจดจำให้เองอัตโนมัติ และเมื่อเราแตะที่ภาพก็จะมีสถานะของเพื่อนคนนั้นในสังคมออนไลน์ขึ้นมาอัพเดททันที
     
  • S Voice - เห็น iPhone มี Siri พูดด้วยได้? S3 ก็ไม่ต่างกัน แต่ทำอะไรได้เพิ่มเติม โดยในงานเห็นว่ารองรับภาษาได้มากถึง 8 ภาษา และสั่ง run โปรแกรมได้หลากหลายด้วย
     
จุดเด่นหลักๆอย่างนึงที่น่าเสียดายว่าในงานไม่ได้พูดอะไรมากคือ Pop up Play ที่เราสามารถเปิดวิดีโอให้มันเล่นบนหน้าจอโดยที่เราก็ทำงานอื่นได้ด้วยได้ ซึ่งเอาจริงๆมันเป็นคิลลิ่งฟีเจอร์มากๆเลยนะ เพราะดึงเอาความสามารถของ Multitask และ Quadcore ออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่จริงๆ เข้าใจว่าน่าจะเป็นการเรียกเอาวิดีโอที่เซฟในเครื่องขึ้นมาดูเท่านั้น ไม่สามารถใช้กับ YouTube ได้ครับ
 
 
จุดเด่นอื่นๆที่น่าสนใจ
การแชร์
- นอกเหนือจาก Android Beam แล้วก็จะยังมี S Beam ที่เพิ่มขีดจำกัดความสามารถเข้าไปให้ Galaxy S III โดยเชื่อมต่อกันได้รวดเร็วผ่าน NFC และยังโอนถ่ายข้อมูลขนาดใหญ่ๆได้เพียงเวลานิดเดียวเท่านั้น ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ถ้าเราถ่ายวิดีโอขนาด 1GB เราสามารถแชร์ให้เพื่อนได้ในเวลาเพียง 3 นาทีหรือถ้าเป็นเพลงขนาด 5 MB ก็จะกินเวลาเพียง 1 วินาทีเท่านั้น!! โอ้ววว แชร์ไฟล์กันมันส์ล่ะทีนี้ (หมายถึงรูปถ่ายเวลาไปเที่ยว ไม่ต้องมาส่งมาแท็กกันวุ่นวายแล้วววว Tongue)
- AllShare Cast << มันก็คือ DLNA นั่นแหละ แต่ว่าเป็นชื่อทางการค้าของทาง SS เค้า แต่ความเจ๋งมันอยู่ที่มันสามารถทำโหมดกระจก mirroring หน้าจอเราขึ้นไปบนทีวีได้ทันที หากทีวีไม่รองรับก็ใช้ Dongle ต่อให้ได้ด้วย สุโค่ยยย!!
- AllShare Play << อันนี้สิที่ต่าง เพราะมันทำให้เราสามารถแชร์ screen ผ่านอินเตอร์เน็ตได้ ลองนึกภาพเวลาเราเก็บวิดีโอเอาไว้ที่เครื่องคอมที่บ้าน เราสามารถใช้ AllShare Play จากมือถือเราเข้าไปเปิดดูได้ ไม่ต้องเก็บไฟล์ใหญ่ๆเอาไว้ให้หนักเครื่องอีกต่อไป
- Group Cast << อันนี้ก็เด็ด เพราะมันจะแชร์หน้าจอของเราให้กับเพื่อนที่อยู่ในวง WiFi เดียวกันได้ โดยเพื่อนๆจะสามารถเขียน comment หรือว่าว่าอะไรลงไปได้ เหมาะกับใช้ทำงานระดมสมองยิ่งนัก...แต่เหมือนจะเหมาะกับจอใหญ่ๆมากกว่านะ
- Buddy photo share ต่อยอดจาก Social tag ด้านบนที่ไม่ใช่แค่ tag แต่ยังสามารถแชร์ภาพไปให้เพื่อนที่เราถ่ายด้วยได้เลยอย่างง่ายๆอีกต่างหาก ไปเที่ยวกันมาถ่ายรูปก็เพียบ ไม่ต้องมานั่งเล็งละว่ารูปไหนจะต้องส่งให้ใคร เพราะเจ้า S3 มันจัดการให้เรียบร้อย
 
Design
- ภายนอกมีการดีไซน์ที่เปลี่ยนไป ไม่ได้ไปเอาอย่างค่ายผลไม้แล้ว โดยทีมออกแบบเจ้า S3 เค้าได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ หล่อรวมดินน้ำไฟลมออกมาให้เป็นหน้าตาของ S3 (ว่าไปนั่น) ก็มีทั้งเสียงชอบและเสียงไม่ชอบมากมาย อันนี้ก็นาๆจิตตัง แต่ส่วนตัวผมขอรอตัดสินอีกทีตอนได้จับของจริงละกัน
- TouchWiz UX ที่มีการ redesign ใหม่ดูสวยสะอาดตาขึ้นกว่าเดิม แน่นอนว่าก็มีแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ หล่อรวมดินน้ำไฟลมออกมาให้เป็น UI ของ S3 อีกเช่นกัน (เออนะ) เสียงกดหรือว่าริงโทนก็มีการปรับปรุงให้ไพเราะเสนาะหูมากขึ้น บลาๆๆ รอได้เล่นจริงๆเดี๋ยวว่ากัน
 
กล้อง
- อาจจะไม่ได้มาตามที่หลายๆคนคาดเอาไว้เพราะมีความละเอียดแค่ 8 MP และภาพรวมโดยมากเรียกว่าฟีเจอร์ใกลักับคู่แข่งอย่าง HTC One X มาก ไม่ว่าจะเป็น Zero Shutter Lag, Burst Best Shot, Smile Shot, HDR, etc. ขอไม่พูดอะไรมาก รอดูคุณภาพของกล้องในการใช้งานจริงอีกทีละกันครับ
สิ่งนึงที่แอบตกใจที่ได้ยิน แต่มันก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วอีกเช่นกันคือุปกรณ์ชาร์จแบตแบบไร้สาย...มีบอกมาแว่บๆตอนท้าย และผ่านไปอย่างรวดเร็ว!! เฮ้ย เด่นๆน่ะ ไม่พูดอะไรเลยเรอะ!! >__<
วันและเวลาจำหน่าย เริ่มได้เห็นกัน 29 พฤษภาคมนี้ 10 ประเทศใหญ่ ส่วนไทยรอลุ้นกันต้นเดือนมิถุนาฯ Smile
และนี่ก็เป็นเรื่องราวทั้งหมดของ S3 ที่ได้จากการอดหลับอดนอนเฝ้างานเปิดตัวในคืนที่ผ่านมา ต้องบอกว่ามีอะไรน่าสนใจไม่น้อย แต่ก็อีกนั่นแหละ ที่ดันพรีเซนต์ออกมาได้ไม่ค่อยน่าตื่นตาตื่นใจเท่าไหร่ หลายๆอย่างที่ซัมซุงเปิดตัวมาวันนี้ เชื่อว่าถ้าได้อยู่ในมือของเฮียสตีฟ ศาสดาสุดที่เลิฟแล้วล่ะก็ มันจะกลายเป็นโคตรว้าวฟีเจอร์ที่เขย่าโลกได้อีกแน่ๆอ่ะ
ทิ้งท้ายด้วย YouTube ซะหน่อย

YouTube Downloader: MP3 / HD Video FOR Google Chrome


YouTube Downloader: MP3 / HD Video เป็นโปรแกรมเสริม (Extension) ของ Google Chrome ที่จะช่วยให้เราสามารถดาวน์โหลดวีดิโอจาก Youtube คลิปใดๆ ก็ได้ที่ต้องการ ด้วยจุดเด่นที่ใช้งานได้ง่าย เพราะเพียงแค่ติดตั้งไปแล้ว เมื่อเข้าดูหน้าของคลิปที่ต้องการ ก็จะมีปุ่ม ‘Download’ อยู่ที่ใต้ตัวเล่นวีดิโอ
โดยสามารถดาวน์โหลดไฟล์วีดิโอคุณภาพความคมชัดระดับต่างๆ ตามที่เราต้องการ อีกทั้งยังเลือกเป็นแบบไฟล์เสียง MP3 ได้อีกด้วย
ดาวน์โหลดและติดตั้ง YouTube Downloader (สำหรับ Google Chrome) 
YouTube Downloader: MP3 / HD Video  FOR Google Chrome

มารู้จัก Lady Ga Ga !!!!!!


Joanne Stefani Germanotta)
หรือเป็นที่รู้จักกันดีในนาม Lady GaGa

เกิดเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 1986

เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง และนักดนตรี ชาวอเมริกัน เธอเป็นที่รู้จักในผลงานแนว
อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเธอได้รับอิทธิพลจากร็อกเกอร์ อย่างเช่น เดวิด โบวี ,ควีนเช่นเดียวกับนักร้องแนวป็อปแด๊นส์ในยุค 1980 อย่าง มาดอนน่า และจอร์จ ไมเคิล เธอเติบโตในย่านแมนฮัตตัน ที่เธอเรียนที่โรงเรียน Convent of the Sacred Heart
 และต่อมาเรียนต่อที่ โรงเรียนศิลปะทิสช์แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก เมื่ออายุ 20 ปี
เธอเริ่มทำงานในฐานะนักแต่งเพลงให้กับอินเตอร์สโคปเรคอร์ดส เขียนเพลงให้กับศิลปินอย่าง
 เดอะพุสซีแคตดอลส์

ในปี ค.ศ. 2008 เลดี้ กาก้า ออกผลงานชุดแรกในชื่อ The Fame ที่มีซิงเกิลฮิตอย่าง
"Just Dance" และ "Poker Face" ซึ่งทั้งสองซิงเกิลสามารถขึ้นไปถึงอันดับหนึ่งในชาร์ต
บิลบอร์ด ทำสถิติเป็นศิลปินคนแรกในรอบเกือบ 10 ปีที่ซิงเกิล 2 ซิงเกิลแรกขึ้นไปถึงอันดับหนึ่ง
ในชาร์ต นอกจากนี้ "Just Dance" ยังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมีสาขาเพลงแดนซ์ยอดเยี่ยมอีกด้วย

เลดี้ กาก้าเกิดที่ยองเกอร์ส รัฐนิวยอร์ก บิดาและมารดาเป็นนักลงทุนทางอินเทอร์เน็ตเชื้อสาย
อิตาเลียน ในวัยเด็ก กาก้าเข้าเรียนที่โรงเรียนคอนแวนต์แซเครดฮาร์ตในแมนฮัตตัน
และเรียนต่อด้านดนตรีที่โรงเรียนศิลปะทิสช์แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก แต่ลาออกก่อนจะสำเร็จการศึกษาหลังจากยุติการเรียน กาก้าย้ายออกจากบ้าน และใช้เวลาส่วนใหญ่เตร็ดเตร่อยู่ในแมนฮัตตัน ก่อนจะได้เซ็นสัญญาในที่สุด

กาก้าเซ็นสัญญาครั้งแรกกับค่ายเดฟ แจม เมื่อมีอายุได้ 19 ปี แต่ถูกยกเลิกสัญญาในอีก 3 เดือน
ให้หลัง ก่อนจะเซ็นสัญญาอีกครั้งในปีเดือนมกราคม ค.ศ. 2008 กับอินเตอร์สโคปเร็คคอร์ด
 ต้นสังกัดปัจจุบัน ในช่วงแรกนั้น กาก้าทำงานในฐานะนักแต่งเพลงเสียเป็นส่วนใหญ่
 ก่อนที่เอค่อนจะมองเห็นถึงศักยภาพในด้านการร้องเพลงของกาก้า และคิดว่า
เธอมีความสามารถเพียงพอที่จะออกผลงานเป็นของตนเองได้ กาก้าได้เริ่มทำอัลบั้มแรก
 The Fame ร่วมกับโปรดิวเซอร์ เรดวัน และได้ออกวางจำหน่ายอัลบั้มในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2008 โดยเปิดตัวที่อันดับ 17 ในชาร์ตบิลบอร์ดและขึ้นสูงสุดที่อันดับ 4

กาก้ายังเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น เมื่อ คริสติน่า อากีเลร่า ขึ้นแสดงเพลง "Keep Gettin' Better"
 ในงานประกาศผลรางวัลเอ็มทีวี วีดีโอ มิวสิก อวอร์ดส ในภาพลักษณ์คล้ายๆกัน จนมีสื่อมวลชนวิจารณ์ว่า คริสติน่านั้นเลียนแบบภาพลักษณ์ของกาก้า ซึ่งกาก้าก็ได้ให้ความเห็นว่า เธอไม่คิดว่า
 คริสติน่านั้นจะเลียนแบบเธอ แต่ก็ยอมรับว่าจากเหตุดังกล่าวมีส่วนทำไห้เธอเป็นที่สนใจมาก
ยิ่งขึ้น และเธอเองก็รู้สึกขอบคุณ ส่วนคริสติน่าเองก็ได้ออกมาปฏิเสธ และกล่าวเพิ่มเติมว่า ตัวเธอไม่รู้จักเลดี้ กาก้าด้วยซ้ำ

ชื่อ "กาก้า" นั้นได้แรงบันดาลใจมาเพลง "Radio Ga-Ga" ของ ควีน ซึ่งร็อบ ฟูซารี หนึ่งในทีมโปรดิวเซอร์ เป็นคนตั้งให้

ผลงานของ เลดี้ กาก้า

สตูดิโออัลบั้ม
 ทัวร์คอนเสิร์ต
  • 2008: The Fame Ball Tour
  • 2009: The Monster Ball Tour
 เพิ่มเติมได้ที่

เว็บไซด์อย่างเป็นทางการของเลดี้กาก้า  http://www.ladygaga.com/splash/

ไขข้อข้องใจ อะไรคือ 3G และ 4G



แรกสุดขอให้เข้าใจว่า มือถือที่เราคุ้นเคยกันมานาน ใช้โทรคุยด้วยเสียง ใช้ส่ง SMS ได้
ถูกเรียกว่าเป็นมือถือแบบ 2G อันนี้ทุกคนคงเข้าใจตรงกัน
ยุคต่อมา เมื่อผู้ใช้มีความต้องการให้มือถือต่ออินเทอร์เน็ตได้ ทางบริษัทมือถือก็ทำเทคโนโลยีชื่อ
EDGE ที่เล่นเน็ตได้บนระบบ 2G ขึ้นมา ยุคนี้เทียบเป็นตัวเลขคือ 2.5G
แต่ความต้องการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงก็ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เราจึงเข้าสู่ยุค 3G
ที่เอาเข้าจริงแล้วแบ่งเป็นรุ่นย่อยๆ มากมาย
3G รุ่นแรกในบ้านเราคือระบบของ Hutch ที่ความเร็วสูงกว่า EDGE แต่ก็ยังไม่เยอะมากนัก
ส่วน 3G ที่เราเห็นโฆษณากันในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นของ AIS/DTAC/TRUE น่าจะเรียกว่าเป็น
3.5G หรือ 3.7G ที่มีความเร็วเพิ่มกว่า 3G ยุคแรกมาก
ชื่อมาตรฐานทางเทคนิคในยุค 3.5G-3.75G จะขึ้นต้นด้วย “HS” ครับ ซึ่งมีหลายตัวอย่างเช่น
 HSDPA, HSUPA, HSPA+ ซึ่งผมคงไม่ลงรายละเอียดเพราะจะงงกันเปล่าๆ แต่สรุปง่ายๆ
 ว่าถ้าเห็นชื่อเหล่านี้ ให้เข้าใจว่ามันคือเทคโนโลยียุค 3.5G หรือ 3.75G ประมาณนี้

ตัวอย่างโฆษณา LTE ของ Verizon ในสหรัฐ ที่ใช้ตัวเลข 4G
ทีนี้มาถึงคำถามสำคัญว่า 4G คืออะไร? คำตอบแบบง่ายๆ ฟันธงไม่มีครับ เพราะ 4G
 มีความหมายทั้งในแง่มาตรฐานทางเทคนิคและชื่อทางการค้า
ช่วงนี้เราจะเริ่มเห็นเทคโนโลยีชื่อว่า LTE กันบ้างแล้ว ตามความหมายทางวิศวกรรมแล้ว LTE น่าจะถือเป็นยุค 3.9G แต่ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ-โอเปอเรเตอร์ในต่างประเทศต่างโฆษณา
ในเชิงพาณิชย์ว่า LTE เป็น 4G กันเรียบร้อยแล้ว เพื่อหวังผลทางการตลาดให้รู้สึกว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่กว่า 3G
บางประเทศเริ่มให้บริการ LTE กันแล้ว เช่น ในสหรัฐ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ตอนนี้ผู้ผลิตมือถือรายใหญ่ๆ
อย่างซัมซุงหรือแอลจีก็เริ่มทำมือถือที่มี LTE ขายกันแล้ว เพียงแต่ยังขายเฉพาะในประเทศที่มี LTE
 บริการเท่านั้น (อีกไม่ช้าเราจะได้เห็น iPhone LTE อย่างแน่นอนครับ)
ผมขอสรุปแบบรวบรัดว่า ในที่สุดแล้วเราคงจะต้องเรียกเทคโนโลยี LTE ว่าเป็น 4G อย่างแน่นอน
เพราะพลังแห่งการประชาสัมพันธ์ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจว่า LTE คือ 4G กันอย่างแพร่หลาย
ข้อดีของ LTE ก็คือมันเร็วขึ้นกว่า 3G ในปัจจุบันอีกหลายเท่า ซึ่งจะช่วยให้เราใช้งานมือถือในรูปแบบใหม่ๆ
 ได้อีกมาก (เช่น ดูหนังผ่านมือถือแบบที่ไม่ต้องโหลดหนังเก็บไว้ก่อน)
อีกประเด็นที่ต้องชี้แจงให้ชัดคือ 2G/3G/4G สามารถใช้งานพร้อมกันได้นะครับ เพราะมือถือหนึ่งเครื่อง
จะรองรับทั้ง 3 ระบบ ถ้าอยู่ในพื้นที่ที่มี 4G รองรับก็ใช้เน็ตเร็วหน่อยผ่าน 4G, ถ้าไม่มี 4G ให้ใช้ก็ถอยลงมาใช้
 3G ที่ช้าลงมาหน่อย หรือถ้าจะคุยด้วยเสียงอย่างเดียวก็ใช้แค่ 2G ที่เมืองไทยมีโครงข่ายครอบคลุมมาตั้งนานแล้วก็พอ

Credit : โดย อิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์
เผยแพร่ครั้งแรกใน ไทยรัฐออนไลน์ 1 มีนาคม 2555 / 

เครื่องพิมพ์ 3 มิติ (3D Printer) เป็นนวัตกรรมคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ของโลก









เครื่องพิมพ์ 3 มิติ (3D Printer) เป็นนวัตกรรมคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ของโลก โดยการสร้างหุ่นจำลอง 3 มิติ ที่ท่านต้องการตรวจสอบงานออกแบบให้กับทีมงาน หรือนำไปเสนอผลงานออกแบบให้กับลูกค้า จากการสร้างโมเดล 3 มิติ (3D Models) โปรแกรมโมเดล 3 มิติทั่วไป แล้วนำมาสั่งพิมพ์ โดยเครื่องพิมพ์ 3 มิติจะทำการพ่นเรซิน มาทีละชั้นๆ ทำให้ได้หุ่นจำลองตามขนาดที่ต้องการ 





โมเดล 3 มิติ จากคอมพิวเตอร์










สั่งพิมพ์ 3 มิติ














หุ่นจำลอง 3 มิติ













ซึ่งเครื่องพิมพ์ 3 มิติ มีตั้งแต่ขนาดเล็ก จนถึงขนาดใหญ่ มีทั้งรุ่นพิมพ์ได้ สีเดียว (Monochome) และหลายสี (Multicolors) ให้ท่านได้เลือก 

การสร้างหุ่นจำลองด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิตินี้ ทำให้ท่านทำงานออกแบบได้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น แม่นยำ รวดเร็ว ต้นทุนต่ำกว่าเดิม และทำให้ลูกค้า หรือผู้พบเห็นเกิดความประทับใจในผลงานออกแบบมากยิ่งขึ้น 

บริษัท ทูพลัส ซอฟท์ จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายแต่งตั้งโดยตรง (Authorized Dealer) จาก Z Corporation, USA.ได้เลือกผลิตภัณฑ์ของ ZPrinter ซึ่งผลิตภัณฑ์จาก USA ซึ่งเป็นเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่นิยมใช้กันมากที่สุดในโลกด้านงานสถาปัตยกรรม และการก่อสร้าง 

The Fastest, Most Affordable, Color 3D Printing

การพิมพ์โมเดลด้วย ZPrinters เป็นการสร้างโมเดล 3 มิติ ได้รวดเร็ว สามารถทำสีได้เหมือนจริง ราคาประหยัดกว่า และใช้งานได้ง่าย 

Get More Models, Sooner
Fastest Print Speed
  • รวดเร็วกว่าการทำโมเดลด้วยวิธีอื่นๆ เช่น ทำด้วยมือ ทำด้วยเลเซ่อร์ ทำด้วย CNC เป็นต้น 5-10 เท่า
  • สามารถสร้างโมเดลต่ออาคารได้หลายๆ แบบ ที่แตกต่างกันได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง แทนการต้องทำเป็นหลายๆ วันหลายสัปดาห์
  • สามารถสร้างโมเดลที่แตกต่างกันได้พร้อมๆ กันในเวลาเดียวกัน
  • รองรับการทำงานทุกแผนกในบริษัท หรือสถานศึกษา

Use Color to Dramatically Communicate Design Intent
Uniquely Multicolor
  • สามารถทำสีเหมือนจริงได้ โดยไม่ต้องมาทาสีใหม่เองอีก
  • สามารถทำให้ประเมินงาน สไตล์ รูปร่าง ของผลงานออกแบบได้ดีกว่า
  • สามารถพิมพ์ตัวหนังสือ รูปภาพ โลโก้ หรือความเห็นลงบนโมเดลได้โดยตรง
  • การพิมพ์ด้วยหัวพิมพ์หลายหัว ทำให้แม่นยำ และสีคงที่
  • สีแบบ 24-bit color ทำให้คุณภาพสีออกมาเหมือนกับการพิมพ์ด้วย Inkjet ปกติ
  • สามารถสร้างโมเดลที่มีรูปทรง รูปร่างที่ซับซ้อนได้ ซึ่งอาจทำไม่ได้เลยในการทำโมเดลด้วยวิธีอื่น
  • สามารถพิมพ์ชิ้นส่วนโมเดลที่ละเอียด หรือบางๆ แม่นยำกว่าแบบอื่นๆ Save Money Every Day

Lowest Operating Cost
  • โดยทั่วไปแล้วจะมีต้นทุนต่ำกว่าทุกวิธีการทำโมเดล เช่น เครื่องเลเซอร์ ทำมือ ทำด้วย CNC และอื่นๆ
  • ต้นทุนการทำสามารถคิดเป็น ลูกบาศก์เซ็นติเมตร
  • ใช้เทคโนโลยี Inkjet Technology ทำให้ต้นทุนไม่สูงมาก
  • วัสดุที่ไม่ได้ใช้ สามารถนำมาใช้ได้ใหม่ ไม่เสียเปล่า

Spend time generating ideas, not operating a 3D printer
Easy to Use
  • ต้องการการอบรมการใช้งานเพียงเล็กน้อย
  • ZPrinters เป็นระบบเดียวที่สามารถทำงานได้อัตโนมัติ
  • การเซ็ตอัพอัตโนมัติ และทำงานได้อัตโนมัติ
  • มีแผงควบคุมเครื่อง สามารถใช้งานได้ง่าย

Use in Any Standard Office or School Environment
Safe and Office Friendly
  • เงียบ ปลอดภัย และไม่มีกลิ่น
  • การทำงานที่ครบวงจร ตั้งแต่การทำงาน การย้าย และการนำวัสดุมาใช้ซ้ำ
  • วัสดุทั้งหมดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งไม่เป็นพิษกับผู้ใช้งาน
  • วัสดุที่เป็นของเหลว ไม่มีเหลือใช้ ทำให้ประหยัด
  • ไม่ต้องใช้วัสดุค้ำยัน หรือรองรับในการย้ายออกจากเครื่อง ทำให้ไม่ต้องอุปกรณ์ใดที่มีคม หรือวัสดุใดที่เป็นพิษ

นิคมอุตสาหกรรม ทวาย โครงการเมกะโปรเจกต์ของพม่า



โครงการเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาลพม่าอย่างแท้จริงในการเปิดพื้นที่พิเศษทางด้านเศรษฐกิจ
 และอุตสาหกรรมบนเนื้อที่กว่า 2 แสนไร่ มีท่าเรือน้ำลึกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
สามารถรองรับเรือขนาดบรรทุก 3 แสนเมตริกตัน โดยท่าเรือน้ำลึกถูกวางแผนในการรับ
สินค้ามากถึง 20 ล้านตัน ภายในโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะมีการลงทุนทั้งด้านปิโตรเคมี
โรงงานอุตสาหกรรม โรงไฟฟ้า การวางแผนให้นิคมอุตสาหกรรมทวายมีขนาดใหญ่เช่นนี้
ตัวโครงการจึงมีมูลค่าสูงถึงกว่า 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐหรือกว่า 1.8ล้านล้านบาท
นับว่าเป็นโครงการลงทุนที่ใหญ่ติดอันดับโลกแห่งหนึ่งและถือได้ว่าเป็นโครงการที่ใช้เงินลงทุน
มหาศาลมากสำหรับประเทศที่ปิดตัวเองมาอย่างยาวนาน  รัฐบาลพม่าเองมุ่งหวังและต้องการ
ที่จะใช้ในการดึงดูดนักลงทุนข้ามชาติเข้ามาตั้งอุตสาหกรรมหนัก โดยอาศัยข้อได้เปรียบจาก
ตัวประเทศพม่าเองที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ทั้งบนดินและชายฝั่งทะเล
การเกิดโครงการทวายนี้สอดรับกับตัวยุทธศาสตร์ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกจรดตะวันตก
หรือ East-West Economic Corridor  โดยทวายจะกลายเป็นทางออกสู่ทะเลจุดใหม่
ที่สำคัญมากต่ออาเซียน เพราะในอดีตทางออกสู่มหาสมุทรอินเดียจำเป็นต้องใช้ท่าเรือ
ของสิงคโปร์เท่านั้น ขณะเดียวกันโปรเจกต์ทวายนี้ยังเป็นต้นทางรับสินค้าจากฝั่งมหาสมุทร
อินเดียหรือสินค้าที่มาจากฝั่งยุโรปและตะวันออกกลาง โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มพลังงา
ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ก๊าซ ซึ่งจะถูกนำเข้าและแปรรูปในโรงงานปิโตรเคมีภายในพื้นที่โปรเจกต์ทวาย
 เพื่อส่งผ่านไทยเข้าไปยังประเทศกลุ่มอินโดจีนเช่น ลาว กัมพูชา และไปสิ้นสุดปลายทาง
ยังท่าเรือดานังประเทศเวียดนาม และจะถูกส่งออกไปยังเอเชียตะวันออกอย่างญี่ปุ่นและจีน





ขณะเดียวกันสินค้าบางส่วนแต่จะมีจำนวนที่มีปริมาณมากขึ้นกว่าในอดีตที่มาออกยังท่าเรือแหลมฉบัง
 จะทำให้ท่าเรือแหลมฉบังถูกทำให้กลายเป็นท่าเรือเชิงยุทธศาสตร์ของภูมิภาคไปโดยปริยาย
การเกิดเส้นทางใหม่ในครั้งนี้ ถ้ามองว่าเริ่มต้นด้วยโครงการทวายแล้ว นั่นแสดงถึงว่าการลดความเสี่ยง
จากการพึ่งพาช่องแคบมะละกาในการขนถ่ายสินค้าไปยังเอเชียตะวันออกจะลดลง เพราะช่องแคบ
มะละกามีความเสี่ยงมากขึ้นจากกรณีโจรสลัดทางทะเลที่เพิ่มขึ้น
การเกิดโครงการทวายส่วนหนึ่งจึงเป็นการตอบโจทย์ของยุทธศาสตร์ประเทศไทยข้อหนึ่งในการเป็
นประเทศทางผ่านของการขนถ่ายสินค้าในเอเชียที่มหาอำนาจอย่างจีน ญี่ปุ่น อินเดียให้ความสำคัญ
เป็นอย่างมาก เมื่อการเกิดโครงการทวายเกิดขึ้น ระเบียงเศรษฐกิจต่างๆที่มีการวางโครงร่างไว้
 จะทำให้ประเทศไทยในภาคบริการส่วนหนึ่งจะกลายเป็น Trader หรือ นายหน้าในการขายสินค้า
และบริการของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เชื่อมกับเอเชียกลาง, เอเชียใต้ และเอเชียตะวันออก
ซึ่งแต่เดิมเป็นบทบาทของสิงคโปร์
แต่ทว่าอีกด้านหนึ่งของโปรเจกต์ทวายกำลังรับความท้าทายครั้งใหม่และสำคัญมากๆ เมื่อมองจากข่าว
ของรัฐบาลพม่าต่อการทำโครงการใหม่ๆที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งก่อนหน้าไม่กี่สัปดาห์พม่า
ได้ยกเลิกการสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำมูลค่า 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นโครงการสัมปทาน
การก่อสร้างและผลิตไฟฟ้าของบริษัทจากประเทศจีน และเมื่อมาให้ยกเลิกโรงงานผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน
ที่มีกำลังผลิตไฟฟ้า 4,000 เมกะวัตต์ เพราะการต่อต้านจากคนในท้องที่ ซึ่งล่าสุดทางอิตัลไทยได้ออกมา
ให้ข่าวว่าได้เตรียมเปลี่ยนเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าไปแล่ว
การที่รัฐบาลพม่าระงับการก่อสร้างโครงการที่อาจก่อมลภาวะและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอาจมาจากการ
ที่รัฐบาลพม่าที่พึ่งขึ้นมารับตำแหน่งใหม่ต้องการปรับยุทธศาสตร์ของประเทศใหม่ โดยการเพิ่มการลงทุน
ในอุตสาหกรรมที่มีความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น พร้อมไปกับการบริหารความสัมพันธ์กับประเทศ
มหาอำนาจอย่างจีนที่เข้ามามีอิทธิพลและบทบาททางเศรษฐกิจของพม่าเป็นอย่างมาก และพร้อมไปกับการ
บริหารความสัมพันธ์กับไทยที่เข้ามาลงทุนในโครงการใหญ่ๆที่ต้องการให้ปรับเพื่อให้เข้ากับรัฐบาลใหม่ของพม่า
การที่พม่าตัดสินใจไม่สร้างเขื่อนซึ่งถูกสัมปทานไปโดยบริษัทจากจีนอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการลดบทบาท
หรืออิทธิพลของธุรกิจจีนในพม่าแต่เป็นการลดอย่างค่อยเป็นค่อยไป นั่นทำให้การให้ยกเลิกการผลิตกระแส
ไฟฟ้าจากถ่านหินในโครงการทวายที่บริหารของคนไทยเป็นตัวรักษาสมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจและอำนาจกับจีน
ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าพม่าบริหารความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเก่งเป็นอย่างยิ่งแม้ว่าตัวเองจะค่อนข้างปิดตัวเอง
ก็ตาม นั่นหมายความว่าโครงการนิคมอุตสาหกรรมทวายกำลังถูกนำไปเป็นขาข้างหนึ่งในการถ่วงดุลกับ
โครงการลงทุนอื่นที่จีนกำลังจะเข้ามาลงทุนทำในพม่ามากขึ้น
การที่โครงการทวายนี้มีขนาดใหญ่และใช้เงินลงทุนมหาศาล รัฐบาลพม่าย่อมหวังผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ
ของตัวเองเป็นอย่างยิ่งเพราะจะเป็นจุดกระโดดที่สำคัญในการเชื่อมต่อเศรษฐกิจในประเทศพม่าที่ถูกควบคุ
มโดยทหารมายาวนานเปลี่ยนรูปเปลี่ยนร่างและสามารถเชื่อมต่อกับเศรษฐกิจทุนนิยมได้มากขึ้น
กลุ่มที่ควบคุมเศรษฐกิจเดิมของพม่าอย่างเช่นกลุ่มทหารหรือผู้ใกล้ชิดกลุ่มทหาร ย่อมคาดหวังว่าการเกิด
โครงการทวายจะทำให้ตนเองได้รับผลประโยชน์มากขึ้นและทำให้ภาพการควบคุมเศรษฐกิจโดยทหารพร่าเลือนลง
การเกิดโครงการทวายจึงน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นจุดหนึ่งของการปฏิรูปประเทศในเชิงเศรษฐกิจของพม่า
ซึ่งพม่าได้ปฏิรูปการเมืองของตนเองไปแล้ว การพัฒนาทางเศรษฐกิจจึงเป็นตัวสำคัญตัวหนึ่งที่เลี่ยงไม่ได้
ในการปฏิรูประบบของประเทศพม่า ความสำคัญของโครงการทวายจึงมีความสำคัญสูงมากๆนอกเหนือจาก
แค่โครงการลงทุนด้วยเม็ดเงินมหาศาล เพราะถ้าไม่สำเร็จพม่าก็ไม่อาจไปต่อได้ในระยะยาว
Credit ขอบคุณแหล่งข้อมูล http://www.siamintelligence.com/